วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

ฝึกสมอง

     มองสมองของคนเราทำหน้าที่แต่งต่างกัน ด้านหนึ่งทำหน้าที่ด้านอารมณ์และอีกด้านหนึ่งทำหน้าที่การคิด บนโลกนี้มีนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นวิธีที่พัฒนาสมองในรูปแบบต่างๆ มากมายแล้วแต่ว่าจะใช้รูปแบบไหนและผลที่ได้รับในด้านอะไร
     แต่วิธีที่จะแนะนำให้รู้จักที่จะได้ทั้งได้อารมณ์ และสติปัญญาคือ
1.  กำมือทั้งสองขข้าง
2.  มือข้างซ้ายยกนิ้วโป้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
3.  ยกนิ้วชี้ขวาหนึ่งหน้าชี้ไปที่นิ้วโป้งที่ยกขึ้นมา
4.  ใช้มือข้างขวาชี้นิ้วทุกนิ้วที่ยกขึ้นของข้างซ้าย
5.  ทำสลับกันกับข้างซ้ายเป็นฝั่งที่ใช้ชี้นิ้วมือฝั่งขวาบ้าง
     ทำอย่างนี้เป็นประจำจะเป็นการฝึกสมองทุกด้าน สามารถช่วยให้เราได้ควบคุมการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ประวัติ

น.ส.สุลัดดา  แก่นศรีใจ
คณะศึกษาศาสตร์ เทคโนโลยี รหัส 53540152

ที่อยู่ 806 ม.1 ซอย3/3 ถ.หมู่บ้านตะวันออก ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เกิดวันที่ 5 เมษายน 2533 อายุ 20 ปี ส่วนสูง 169 ซม. น้ำหนัก 57 กก.

สัญชาติไทย เชื่อชาติไทย ศาสนาพุทธ

ค้นหาตัวเอง

     มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้คนพบสิ่งที่ตัวเองชอบและตัวเองอยากทำ และสิ่งที่ฝันหรือสิ่งที่อยากทำจะเป็นสิ่งที่ตอบกระตุ้นให้เรานั้นพบกับความสำเร็จในชีวิต หากคุณเคยดูรายการสุริวิภา หรือรายการ The Idol เป็นรายการที่จะช่วยให้เรานั้นจุดประกายความคิดในมุมต่างๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม
     มีผู้หญิงคนหนึ่งในวันที่ 10 กันยายน 2553 เธอได้ออกรายการสุริวิภา  เธอมาจากครอบครัวคนจีน ในวัยเด็กเธอมันความฝัน และชอบที่จะทำงานเกี่ยวกับศิลปะ เธอเรียนหนังสือจนถึงมัธยมที่ 5 เธอขอครอบครัวว่าอยากไปเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากรณ์ โดยที่ครอบครัวของเธอก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่  เมื่อเธอได้เข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากรณ์แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นการเรียนเป็นครอสต์ๆ ไป เธอเริ่มมีความรู้สึกว่าเมื่อยิ่งเรียนงานก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ จนเธอไม่อยากจะเรียนต่อแล้ว เธอก็ได้ของครอบครัวเพื่อไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทางครอบครัวก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่  เมื่อเธอเรียนจบเธอได้หางานทำที่ประเทศที่เธอเรียนจบการศึกษา  แต่การที่คนสัญชาติเข้าไปทำงานในต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ปกติแล้วเมื่อเรียนจบก็ต้องกลับประเทศ  แต่เธอก็ได้หางานทำที่เกี่ยวกับศิลปะเป็นงานที่เธอชอบแต่ทำงานไปซักระยะหนึ่ง บริษัทที่เธอทำงานก็มาบอกเธอว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วเพราะว่าบริษัทได้ปิดตัวลงแล้วนั้นเอง  สถานะการณ์ตอนนั้นถือว่าแย่สำหรับเธอเลยทีเดียวเพราะว่าเนื่องจากเธอทำงานแล้ว เธอจึงไม่ได้ของเงินทางครอบครัวมาใช้สักระยะหนึ่งแล้ว เป็นผลมาให้ในตอนนั้นเงินก็ไม่มีจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เธอจึงไปขอให้เพื่อนที่ทำงานในห้างช่วยหาตำแหน่งงานให้ทำหน่อย สุดท้ายเธอได้ไปทำงานที่ห้างกับเพื่อน แต่งานนี้เป็นงานที่เธอไม่ชอบ ทุกๆวันเธอจะคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะให้หลุดพ้นไปจากสิ่งที่เธอไม่ชอบทำ  เธอเดินไปบนถนนเรื่อยๆ เธอได้ไปเจอนักวาดศิลปะอยู่ในตู้กระจก นักวาดคนนี้ได้วาดรูปสวยมาก เมื่อเธอเห็นมันเป็นสิ่งที่จุดประกายความฝันของเธอเข้าไปอีก ความฝันของเธอเป็นจริง เธอได้ออกแบบศิลปะที่เรียกว่า Art Blackground งานประเภทนี้เป็นงานที่ได้รายได้งาม แต่ว่างานประเภทนี้ในเมืองนอกนั้นมีคู่แข่งและเด็กจบใหม่มาทุกๆปี หากในทุกๆวันเธอไม่คิดที่จะพัฒนาฝีมือ ก็จะไม่มีลูกค้ารายไหนมาจ้างงานให้เธอทำ แต่ผลงานที่เธอได้ทำนั้นก็ได้เข้าได้ของลูกค้าหลายรายเช่น Microsoft เบนส์ MTV และอีกมากมาย ฝีมือเธอได้ติด200 ในระดับโลก
     นี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าการที่เรามีความฝัน และคนที่สามารถค้นพบสิ่งที่ตัวเองทำ มันจะเป็นสิ่งที่คอยกระตุ้นให้บุคคลนั้นได้มีความกระตือรือร้น เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบนั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

การนับถือความมุ่งมานะ

     ทุกคนบนโลกนี้ล้วนแต่ว่าจะต้องการสิ่งที่ดีในชีวิต  และทุกคนนั้นย่อมมีฝันของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น คนทุกคนที่เกิดมาบนโลกนั้นมีความเหมือน และแตกต่างกันออกไป ในส่วนของความรู้ความสามารถที่ไม่เท่ากัน 
     การเรียนหนังสือนั้นเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต เพราะว่าสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับชีวิตของคนเราให้สูง หรือต่ำด้อยได้  หากว่าคุณเกิดมาบนโลกใบนี้เป็นคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ นั่นมาจากความสามารถและไหวพริบในความเก่ง แต่ถ้าหาว่าเก่งแล้วไม่รู้จักพัฒนาความสามารถที่มีให้เพิ่มขึ้นก็จะทำให้เกิดการเสียโอกาส เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่เก่งมีความจดจำช้ากว่านั้นในเรี่องของการเรียนรู้หรือ ทำงานต่างๆ  สำหรับบุคคลเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะพบคนที่ประสบความสำเร็จได้น้อยกว่าคนที่เก่งมีความสามารถ  แต่บุคคลเหล่านี้ถึงจะไม่เก่งแต่ว่าหากมีความขยันมุ่งมานะเพื่อที่จะพิชิตความฝันของตัวเองที่ตัวเองได้ตั้งเป้าหมายไว้ หากว่าเป้าหมายนั้นประสบความสำเร็จ ถึอว่าบุคคลเหล่านี้น่านับถือและยกย่อง  ซึ่งน้อยคนนักที่จะตั้งเป้าหมายในชีวิตแล้วทำให้มันประสบความสำเร็จ เพราะว่าการที่จะทำอะไรนั้นย่อมที่จะมีอุปสรรค และปัญหาเข้ามาเป็นด่านทดสอบประสิทธิภาพ ความอดทน และความมขยันในตัวเราเสมอ

     ยกตัวอย่างเรื่องในหนังสือน้องเดียว ที่ชนะเกมรายการทศกัณฑ์
     น้องเดียวได้ตีพิมพ์เรื่องราวต่างๆ ไว้มากมาในหนังสือ และขณะนี้น้องเดี่ยวได้ขอพ่อแม่ ไปบวชเป็นลูกศิษย์ของท่าน ว. ที่อาจารย์สอนวิชาปรัชญาได้อ่านหนังสือเล่นนี้แล้วได้นำมาเล่าให้นักเรียนในห้องเพื่อนำความรู้ที่ได้รับนั้น  สามารถกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนนั้น มีความกระตือรือล้นที่จะทำเป้าหมายใน
ชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
     เรื่องราวคือ มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เธอไม่สบายด้วยสาเหตุประการหนึ่ง เธอได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและเธอนั้นได้รับการปฏิบัติจากหมอ พยาบาลที่ไม่ดีสำหรับเธอ จากนั้นเธอจึงตั้งเป้าหมายในชีวติว่าเธอจะเป็นหมอที่ดีต่อคนไขที่เธอได้รักษาให้  แต่สำหรับเรื่องการเป็นหมอนั้นยากมากสำหรับเธอ เพราะว่าเธอเป็นคนที่เรียนหนังสือไม่เก่ง หรือเรียกอีกอย่างว่า "เป็นคนหัวไม่ไว" แต่เธอได้มีเป้าหมายในชีวิตที่เธอได้ปฎิฐานเอาไว้ เธอจึงขยันอ่านหนังสือ ท่องหนังสือในแต่ละวันเป็นเวลา 16 ชั่วโมง จนเธอสามารถเข้าสอบสาขาคณะแพทย์ได้ และในปัจจุบันเธอได้เป็นหมอที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
     การที่คนเราได้มีเป้าหมาย และมุ่งมั่นที่จะทำมันให้ประสบความสำเร็จนั้น เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง และเอาเป็น Idol ได้เลยคนหนี่ง

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Idol เกาหลี

       ทำไมนักร้องนักแสดงเกาหลี ถึงได้มีอิทธิพลต่อเด็ก และเยาวชนของไทยมากนัก และทำไมความสามารถของนักร้อง นักแสดงของประเทศเกาหลีเมื่อมาเปรียบเทียบกับไทยแล้ว ความแตกต่างทำให้เป็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า


       การที่คุณเห็นว่าทำไมความสามารถของนักร้อง นักแสดงเกาหลีจึงเด่นกว่าของไทยเพราะว่า นักร้อง นักแสดงนั้นกว่าที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็น Idol ของกลุ่มคนทั่วไปนั้นพวกเขาต้องผ่านการฝึกอย่างหนัก ทั้งด้านการร้อง เต้น การแสดง รวมไปถึงพฤติกรรมเมื่อเวลาอยู่ในสาธารณะชนอีกด้วย เพราะว่าบริษัทที่ดูและนักแสดงที่เกาหลีนั้นจะมีการดูแลเด็กในสังกัดอย่างใกล้ชิด
       เมื่อเรามาดูพฤติกรรมของนักแสดงไทยกับเกาหลีใต้แล้วละก็ ที่ประเทศไทยมักจะมีเรื่องฉาวเกี่ยวกับผู้ชายการโชว์ในเรื่องเนื้อหนังมังสามากกว่า ศิลปินที่ประเทศเกาหลีใต้เพราะว่าที่เกาหลีใต้นั้นถึงแม้ว่าการแข่งขันในเรื่องของการตลาดจะมากว่า และรวมไปถึงการแต่งตัว แต่ศิลปินประเทศเขาก็มุ่งเน้นที่ผลงานมากกว่าเรื่องข่าวฉาวที่พบบ่อยมากในเมืองไทย
        แต่การที่คุณนั้นเห็นว่าศิลปินเกาหลีนั้นโดงดังไปทั้งโลกนั้น  อันดับแรกเราก็ต้องยอมรับว่าคนเกาหลีนั้นมีลักษณะที่ผิวขาว รูปร่างได้สัดส่วน และความสามารถของประเทศเขาเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
เพราะว่าวงการบันเทิงกว่าที่จะมีการปล่อยศิลปินในสังกัดของบริษัทเขา เขาต้องฝึกเด็กพวกนี้มาเป็นปีๆ เพื่อความมั่นใจว่าศิลปินของบริษัทเขาจะต้องเป็นที่ยอมรับ และโด่งดังสามารถสร้างรายได้กับบริษัทเป็นกอบเป็นกำ หากว่าศิลปินสร้างข่าวในเรื่องไม่ดี บริษัทต้นสังกัดของศิลปินนั้นสามารถซื้อข่าวเพื่อให้ข่าวที่ไม่ดีต่อศิลปินของบริษัทจบลงด้วยดี


        เหตุผลที่อุตสาหกรรมวงการบันเทิงของประเทศเกาหลีทำไมถึงเป็นสิ่งที่ส่งออกมากกว่าสินค้าอื่นๆ  เนื่องมาจากว่าประเทศเกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีทรัพยากรที่สามารถผลิตสินค้าต่างๆ มากนัก แต่ถึงแม้ว่าสินค้าที่ส่งออกได้นั้นก็มักจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องสินค้าความสวยความงามมากว่า สินค้าในรูปพลังงาน